ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

คอนเฟริมภาพผีที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นของจริง



เป็นที่แน่ๆ แล้วว่าภาพวิญญาณที่โผล่ตามเว็บไซต์เป็นเรื่องจริง พ่อค้าแม่ขายที่อยู่บริเวณนั้นต่างยืนยันว่าเห็น “ผี” จะๆ หลังห้างดังแยกราชประสงค์ไหม้ ส่วนเรื่องภาพผีที่คนถ่ายติดได้ในวันห้างไฟไหม้นั้น กลายเป็นแชมป์ “ฟอร์เวิร์ดเมล์” ประจำปี ด้านผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการตัดต่อภาพฟันธงไม่ใช่ผี ชี้แค่บรรยากาศพาไป…

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ได้กลายเป็นเรื่องหวาดผวาไปแล้ว หลังจากที่มีเรื่องเล่าปากต่อปากหนาหูว่าหลังจากที่ห้างดังย่านแยกราช ประสงค์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่อาถรรพ์ถูกเผาวอดจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 กลับมีคนมากมายเห็น “วิญญาณ” ออกมาปรากฏตัวสร้างความหวาดกลัวอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระลอกใหญ่ไปกับฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ อ้างว่าเป็นภาพ “วิญญาณ” ซึ่ง มีลักษณะเป็นเงาสีดำขนาดใหญ่เค้าโครงรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเทพที่ตั้งอยู่ บริเวณแยกราชประสงค์กำลังร้องไห้ ขณะห้างกำลังลุกไหม้นั้น
ทีมข่าว ไทยรัฐออนไลน์ ได้ลงพื้นที่หาความจริงหลังจากกระแสเรื่อง “ผี” ที่มีหนาหู ปรากฏว่า พ่อค้า-แม่ขาย และผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นส่วนมากจะได้รับรู้เรื่องวิญญาณที่ออกมาปรากฏตัว หลังจากที่ห้างถูกไฟไหม้มากมาย จนส่งผลให้ระยะหลังๆ ไม่ค่อยจะมีใครกล้าขายของตอนตะวันตกดิน
นายทศพล สมผิว พ่อค้า ที่ขายของอยู่บริเวณนั้น กล่าวกับไทยรัฐ ออนไลน์ถึงกระแสข่าวเรื่องวิญญาณเฮี้ยนมักจะปรากฏตัวออกมาให้คนเห็นว่า ยอมรับว่ามีคนเห็นวิญญาณจริง โดยคนที่เขาพบมาเล่าให้ฟังว่าตอนค่ำๆ หลังวันเกิดไฟไหม้เพียง 1 วัน เขาบอกว่าเห็นคนแก่แต่งตัวเหมือนกับคนคล้ายๆ คนโบราณอยู่ดีๆ ก็เดินออกมาจากห้างที่ไฟไหม้ด้วยท่าทางเศร้ามานั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าเวที ชุมนุม ซึ่งหลังจากไฟไหม้ 1 วัน (วันที่ 20 พ.ค. 2553) ตอนนั้นรัฐบาลยังไม่เก็บกวาดเวทีใหญ่ และเก้าอี้ คนที่เห็นก็เดินเข้าไปถามคนแก่คนนั้นว่าคนอื่นๆ เขากลับบ้านกันหมด ทำไมคุณยายไม่กลับบ้าน ยายคนนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่ร้องไห้ พอหันหลังไปมองอีกทีคนแก่คนนี้ก็หายไปแล้ว
“พอตำรวจเข้ามาเก็บกวาด พื้นที่เราก็เพิ่งรู้ว่า ในห้างนั้นมีคนตายด้วย แต่บางคนก็บอกว่าเป็นเจ้าที่เจ้าทางเพราะเมื่อก่อนที่ตรงนี้เคยมีศาลตายาย ซึ่งเรื่องนี้หลายคนรู้แต่ไม่กล้าเล่าเพราะจะทำให้บรรยากาศในการขายของไม่ดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อมีคนถามแล้วคนแถวนี้จะบอกว่าไม่รู้”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น